ไม่ว่าจะวัยเรียนยันวัยทำงานหนังสือเรียนเป็นเหมือนของแสลงที่ได้จับเป็นหลับทุกที ยกเว้นหนังสือนอกตำราที่ยังพอตั้งคอให้ตรงแล้วอ่านกันได้แบบเพลินเพลิน ยิ่งตอนนี้มีเรียนออนไลน์ด้วยแล้วเหมือนเพิ่มดีกรีความเครียดให้กับน้องน้องในวัยเรียนพอสมควร เรียกว่าเรียนไป 8-10 ชั่วโมงยังไม่พอการบ้านยังต้องทำหนังสือยังต้องอ่านอีกขอลาไปนอนแบบยาว ๆ เลยได้ไหมคะครู ยิ่งใกล้สอบยิ่งแล้วใหญ่ได้จับหนังสือปุ๊บหลับคาโต๊ะเลยใช่ไหมคะเด็ก ๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะวัยใสเท่านั้นผู้ใหญ่วัยทำงานอย่างเราบางทีอ่านไปอ่านมาหลับคาคอมพิวเตอร์เลยก็มีเหมือนกัน งั้นวันนี้เราจะขอพามาเจอกับเคล็ดลับง่าย ๆ เหมือนเป็นตัวช่วยให้หายง่วงตอนอ่านหนังสือกันค่ะจะได้ตื่นตัวกระปรี้กระเปร่ากันสักหน่อย
ชากาแฟช่วยได้ !
เริ่มด้วยวิธีแรกใครชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้วถูกใจสิ่งนี้แน่นอน หากใครไม่ถูกกับกาแฟก็สามารถหาชามาดื่มระหว่างอ่านหนังสือไปด้วยก็ได้ เพราะในชากาแฟจะมีคาเฟอีนอยู่ช่วยกระตุ้นให้ประสาทตื่นตัวแต่ถ้าหากใครไม่ชอบทั้งชาและกาแฟแล้วล่ะก็ลองหาน้ำหวานหรือน้ำอัดลมมาดื่มก็ช่วยให้หายง่วงได้เหมือนกันค่ะ
เปรี้ยวจี๊ดโดนใจ
วิธีแก้ง่วงที่ได้ผลทันใจอีกหนึ่งอย่างคือหาขนมรสเปรี้ยวมาทานเล่นระหว่างอ่านหนังสือค่ะ อย่างมะขามจี๊ดจ๊าด ลูกอมเปรี้ยว มะม่วงกวน ลูกหยี รับรองว่าทานเข้าไปมีตื่นกันบ้างแหละค่ะ เพราะเมื่อไหร่ที่ต่อมรับรสเราได้แตะรสหวานอมเปรี้ยวเข้าไปแล้วล่ะก็กระบวนการรับรู้จะส่งไปถึงสมองทันทีค่ะ เป็นตัวช่วยที่ไม่เลวเลยนะคะ
ลุกจากเก้าอี้มายืดเส้นยืดสาย
พอเราอ่านหนังสือไปได้สักพักและเริ่มรู้ตัวว่าตาจะปิดละแต่จะให้ปิดไฟนอนเลยมันจะรู้สึกผิดเอาได้ขออ่านต่อสักหน่อยก็ยังดี การลุกออกมาจากที่นั่งเดิมแล้วเดินไปเดินมา ขยับร่างกายให้ได้พอยืดเส้นยืดสาย หรือจะเปิดเพลงลุกขึ้นเต้นช่วงสั้นๆ ก็ช่วยเบิกเนตรได้เหมือนกันนะคะ
Take a nap
วิธีนี้เราว่าเวิร์คสำหรับเราอยู่เหมือนกันค่ะ สามารถนำไปใช้กับการทำงานได้ลองงีบแบบช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ระหว่างวันได้ สัก 15 นาทีกำลังดี เหมือนเป็นการชาร์จพลังงานให้ร่างกายได้พักผ่อนชั่วขณะหนึ่งพอตื่นขึ้นมาก็จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นพร้อมกับลุยงานหรือพร้อมอ่านหนังสือได้ต่ออีกหน่อยค่ะ
ไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย
การลุกขึ้นไปล้างหน้าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยแก้ง่วงให้เราได้ดีเช่นกันหรือแม้แต่ขณะเรานั่งเรียนก็มักจะได้ยินคุณครูบอกให้เราลุกไปล้างหน้าให้ตื่นตัวพร้อมกลับมานั่งเรียนได้แบบรู้เรื่อง เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเริ่มตาจะปิดหรือเพลียมากจนใกล้จะหลับแล้วก็ให้ลองลุกไปล้างหน้าสักหน่อยก็จะช่วยซื้อเวลาให้เราต่อได้อีกค่ะ
เคี้ยวหมากฝรั่ง
เขาบอกกันว่าหาอะไรมาไว้ในปากแล้วเคี้ยว ๆ เหมือนเป็นการออกกำลังกายไปในตัวให้ได้มีกล้ามเนื้อบางส่วนที่ขยับโดยไม่ต้องเหนื่อยให้เหงื่อท่วมตัวเหมือนคาดิโอหรือยกเวท การหาหมากฝรั่งมาเคี้ยวแก้ง่วงไปพลาง ๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน ในหมากฝรั่งมีรสชาติหวานของน้ำตาล บางรสก็มีกาแฟ รสมิ้นท์เย็น ๆ ให้เราได้สดชื่นก็ช่วยให้เราหายง่วงได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
ลองอ่านออกเสียง
เวลาอ่านหนังสือให้ลองอ่านออกมาเสียงดังดูบ้างค่ะ นอกจากจะเหมือนเป็นการช่วยเรื่องความจำแล้วยังเหมือนเป็นการขยายความคิดความเข้าใจเราด้วยไปในตัว นอกจากนั้นการอ่านออกมาประสาทรับฟังเสียงยังทำงานอีกด้วยทำให้เราตื่นตัวอยู่เสมอไม่ง่วงได้ง่าย ถ้าหากรู้สึกว่าง่วงจนจะไม่ไหวแล้วตาจะปิดก็ให้เริ่มออกเสียงตัวอักษรถัดไปอย่างทันทีก็จะช่วยดึงสติให้เรากลับมาโฟกัสที่การอ่านหนังสือได้อย่างทันท่วงทีค่ะ
เขียน Short note ลงไปด้วย
อีกวิธีที่ช่วยให้ไม่ง่วงและได้ผลดีกว่าการนั่งอ่านเฉย ๆ คือ การหากระดาษมาจด Short note เพื่อเน้นความเข้าใจของเราให้มากขึ้นด้วย เรียกว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่แก้ง่วงแบบได้ประโยชน์ไปอีกขั้น เพราะด้วยสมองเราจะโฟกัสกับสิ่งที่อ่านไปอย่างเต็มที่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขียนมากกว่าความง่วง ทำให้อาการง่วงหนาวหาวนอนหายไปอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ
อย่าอ่านบนที่นอน
การอ่านหนังสือที่อยู่ในท่าสบายเกินไปก็สามารถทำให้เราง่วงได้ยิ่งถ้าอ่านบนเตียงนอนนุ่ม ๆ เปิดไฟสลัว ๆ อากาศเย็น ๆ แล้วล่ะก็เรียบร้อยค่ะหลับคาเตียงแน่นอนเพราะด้วยท่าทางที่สะดวกสบายสถานที่บรรยากาศมันรายล้อมไปด้วยสิ่งเร้าให้เราพร้อมนอนตลอดเวลาอย่างนี้ ยากมากที่เราจะต้านทานต่อไปได้เพราะฉะนั้นอ่านหนังสือในที่ที่ทำให้เรารู้สึกมีสมาธิและตื่นตัวอยู่เสมอดีกว่าค่ะ
สุดท้ายไม่ว่าจะใช้วิธีไหนในการทำให้เราอ่านหนังสือได้ตามเป้าหมายเมื่อถึงเวลาพักก็อย่าลืมหาอะไรมาช่วยผ่อนคลายให้ไม่เครียดเกินไปอย่างเล่นเกมส์สล็อตออนไลน์ ฝาก25รับ100ล่าสุด หรือเมื่อถึงเวลานอนก็นอนอย่างเต็มที่พักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้เราอ่านหนังสือได้นอนขึ้นได้ค่ะ
เครดิตรูปภาพ :
https://pin.it/7IwNCE3
https://pin.it/1ZaBiEf
https://pin.it/112ZATH